เนื่องจากตอนนี้เราเป็นฟรีแลนซ์แล้ว ยังไม่ได้มีประกันสุขภาพอะไรเป็นของตัวเอง เดินทางบ่อย เลยอยากทำประกันไวรัสเฉพาะตัวนี้เอาไว้กันเพื่อความอุ่นใจ เลยไปดูรีวิวการเทียบประกันของแต่ละเจ้าจาก Wongnai แล้วตัดสินใจทำกับสินมั่นคง เพราะเข้าใจง่ายดี ตรวจเจอแล้วจ่ายเลยจบ
จริง ๆ ขั้นตอนสมัครไม่อยาก แต่พอดีเจอ UX ที่มันน่าจะปรับได้อีกหลายอย่าง เลยอยากลองเขียนบล็อกไว้มาแชร์กัน
ปุ่มเคลียร์
ข้อแรกน้องภูมิแห่ง Young Creator’s Camp ได้โพสไว้เมื่อวันก่อนแล้ว เราอยากเอามาแชร์ต่อ ก็คือการเอาปุ่มเคลียร์ ที่เอาไว้สำหรับเคลียข้อมูลทั้งหมด มาไว้เป็น CTA หลัก อยู่บนสุด สีชัดสุด ทั้งบน Mobile และ Desktop เลย กดปุ๊ป ข้อมูลที่กรอกมาทั้งหมดหายปั๊ปโปเตโต้เลย เริ่มต้นใหม่กันไป
ทางแก้
- เอาปุ่มเคลียร์ออกไปเลย: หลาย ๆ ที่รวมถึง UX Planet ได้แนะนำเอาไว้ว่า ให้เลี่ยงการมีปุ่ม reset หรือปุ่มที่เคลียร์ข้อความแบบนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนใหญ่ user ไม่ต้องการเคลียร์ข้อมูลทั้งหมดอยู่แล้วถ้าสามารถกลับไปแก้ทีละฟิลด์ข้อมูลได้เลย อีกอย่างการเคลียร์ข้อมูลก็ไม่ได้เป็น CTA อยู่แล้ว
- ทำให้ปุ่มเคลียร์เป็น Secondary: ถึงแม้เราจะคิดว่าปุ่มนี้ไม่ควรมีเลย ถ้าทางทีมงานมีข้อมูลว่าปุ่มเคลียร์นั้นจำเป็นจริง ๆ อย่างน้อยก็ควรทำให้มันเป็น Secondary CTA ด้วยการย้ายปุ่มมาอยู่ข้างหลัง (หรือข้างล่าง) แทนการเป็นปุ่มแรก แล้วก็ทำให้เด่นน้อยลงด้วยการเปลี่ยน Background ปุ่มแล้วมีแค่เส้นขอบแทน
การยืนยันการสมัคร
ข้อสองที่เราอยากพูดถึง คือการยืนยันข้อมูล กรณีนี้เราสมัครแบบตัดบัตรเครดิต กดสมัครปุ๊ปมัน redirect ไปหน้าบัตรเครดิต เสร็จแล้วเราก็ปิดหน้าต่างปกติ สมัครเสร็จไม่มีข้อมูลอะไรมายืนยันเลย พอเราโทรไปคอลเซ็นเตอร์ พนักงานแจ้งว่าต้องจดเลขที่สมัครไว้ ซึ่งเป็นเลขหกตัว สารภาพว่าเราจำไม่ได้ ไม่ได้แม้แต่มอง และไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนด้วย
ทางแก้
เอาง่าย ๆ ก็คือส่ง SMS ผ่านระบบอัตโนมัติมาเลย ว่ายืนยันการสมัคร จะส่งกรรมธรรม์มาภายในวันที่เท่าไหร่ และเลขอ้างอิงคืออะไร
Required Fields
จากภาพด้านบน จะเห็นสิ่งที่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้อยู่หลายอย่าง เช่น
การระบุ Required Fields
ตรงนี้แทนที่จะใส่ดอกจันทร์สีแดงไว้หลังช่อง ทำให้มองไม่ชัดเจน มีคำแนะนำของ best practice ไว้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น
- ไม่ต้องใส่ Optional field ไปเลย: คือควรเลิกขอข้อมูลเกินความจำเป็น ถ้าไม่ต้องมีก็ได้ งั้นก็ไม่ต้องขอไปเลยสิ
- ให้เอาดอกจันทร์ไว้ด้านหน้าชื่อของปุ่มนั้น: เพราะว่าดึงดูดความสนใจคนได้มากกว่าการเอาไปไว้ข้างหลัง
- ให้ระบุว่าปุ่มไหนเป็น Optional field แทน: แล้วก็ไม่ต้องระบุว่า Required เพราะว่าทำให้คนรู้สึกว่ายังมีทางเลือกอยู่ มีแนวโน้มที่จะกรอกข้อมูลครบมากขึ้น เพราะว่าไม่โดนคำว่า Required มากระตุ้นให้รู้สึกว่า กรอกแค่นี้ก็พอ หรือว่าสีแดงมันยังเป็นการกระตุ้นความตกใจและกังวลด้วย
Disable CTA
เคสนี้ตั้งไว้ว่า ถ้าคลิก checkbox ตรง “ผู้ขอเอาประกันภัยขอยืนยันว่า ไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนามาก่อน” ปุ่ม CTA ให้สั่งซื้อ ก็จะ Enable ให้กดได้เลย แต่ถ้าเรากดสั่งซื้อปุ๊ปโดยที่ไม่ได้กรอกข้อมูลอะไรเลย ก็ค่อยเด้งบอก ทีละฟิลด์ ว่าต้องกลับไปกรอกอะไรบ้าง
ทางแก้
- Enable ปุ่มก็ต่อเมื่อกรอกข้อมูลที่ required ครบแล้ว
- ถ้าจะ Enable ปุ่มแล้วให้คลิกแสดงข้อความ error แทน ให้โชว์กรอบแดงทุกฟิลด์ที่ required แต่ยังไม่ได้กรอกพร้อมกันทีเดียว ไม่ใช่โชว์ error ที่ละฟิลด์แล้วต้องมากด CTA ไปเรื่อย ๆ
ต้องใช้ที่อยู่ แต่ไม่ระบุไว้
เนื่องจากตอนกรอกข้อมูลนั้น ที่อยู่ไม่ได้เป็นหนึ่งใน required field เราเลยข้ามตรงนี้ไป พอสมัครเสร็จไม่มีข้อความยืนยันตามที่ระบุไว้ด้านบน เราก็เลยโทรหาคอลเซ็นเตอร์ แล้วคอลเซ็นเตอร์ก็แจ้งว่า “จริง ๆ ต้องกรอกที่อยู่นะคะ เพราะว่าเราจะส่งกรรมธรรม์ไปให้” ซึ่งเราก็เลยงงเลยว่า ถ้างั้นทำไมไม่ใส่เป็น Required field ไปตั้งแต่แรก อันนี้ไม่แน่ใจว่ามีเหตุผลอะไรมั้ย หรือว่าแค่ลืมระบุไว้ ข้อแนะนำง่าย ๆ เลย ถ้าต้องใช้ที่อยู่ในการส่งกรรมธรรม์ ก็ทำให้ฟิลด์ที่อยู่เป็น Required เถอะ
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นของเราเอง จากคนที่ทำงานสาย Product มา บอกก่อนว่าเราไม่ได้เป็น UX Designer โดยตรง แต่เราคิดว่าบริษัทประกันยิ่งต้องสนใจเรื่อง UX ให้มาก ๆ เลยนะ เพราะว่ามันกระทบกับสุขภาพและชีวิตของคนที่สมัครทุกคน
ถ้าใครมีความคิดเห็นยังไง เกี่ยวกับ UX ของโฟลวนี้ หรือว่าคำแนะนำของเราเอง ทิ้งคอมเมนท์ไว้ได้เลยนะ 🙂