ต่างจากโฆษณา ที่เงินหมดลูกค้าก็หดหาย Organic campaign สร้างทราฟฟิค และยอดขายต่อเนื่องไป ไม่มีวันหยุด มีแต่จะเติบโตต่อยอดแตกกิ่ง สร้างรายได้ให้มากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนคุณกำลังปลูกต้นเงินเป็นของตัวเอง
Organic campaign เป็นการรวมตัวของช่องทางการตลาด Organic ที่ทรงพลังที่สุดเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ SEO โซเชียลมีเดีย และการพาร์ทเนอร์ สร้างพันธมิตรการเติบโต เป็นการเปิดอัลติ แคมเปญการตลาดสุดแข็งแกร่ง ที่สร้างลูกค้าใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และสบายกระเป๋า
เสียเงินจ่ายค่าโฆษณา ไปเกะกะขวางหน้าจอให้ว่าที่ลูกค้ารำคาญ ดึงดูดคนมาเข้าเว็บไซต์ธุรกิจอย่างระแวงแคลงใจ ขณะที่ Organic campaigns เน้นแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ สร้างความเชื่อมั่นกับมนุษย์อีกฝ่ายอย่างเป็นธรรมชาติ จริงใจ ตรงไปตรงมา ได้ลูกค้าด้วยความไว้ใจ ใช้เรื่องราวและความรู้ที่คุณมี
คุณต้องใช้เงินมากแค่ไหน เพื่อให้ธุรกิจเติบโตตอนนี้?
ถ้ารู้สึกว่าที่เป็นอยู่นั้นไม่ไหว ค่าใช้จ่ายสูงเกินไปในการจะหาลูกค้า บอกเลยว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียว
จากการสำรวจนักการตลาด 13,350 โดย Neil Patel Digital: 78% ตอบเข้ามาว่า แอดโฆษณาที่เสียเงินไปนั้นไม่ได้กำไรกลับมา
งานศึกษาอีกชิ้นโดย Advertising Research Community วิเคราะห์โฆษณา 343 แคมเปญ ที่ใช้งบรวมกัน 219 พันล้านบาท พบว่า 70% ของแคมเปญแอดที่ว่านั้น ไม่สามารถสร้างผลตอบแทน (ROI) ที่มีความหมายได้
Wordstream พบว่าค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC) ของ Google Ads นั้น เพิ่มขึ้น 10% ระหว่างปี 2023-2024 ส่วนค่าใช้จ่ายต่อหลีดนั้นเพิ่ม 25% นี่หมายความว่านอกจากโฆษณาจะแพงขึ้นแล้ว ทราฟฟิคที่มาจากโฆษณานั้นยังเปลี่ยนเป็นหลีดน้อยลง เป็นหมัดแย้บแล้วฮุก น็อคคนยิงแอดหน้าชาไปเลย
ค่าโฆษณาแพงไม่ใช่เรื่องใหม่ ความจริงก็คือแพงมานานแล้ว แพงขึ้นมาเรื่อยๆ แพงขึ้นสองเท่าในทศวรรตที่ผ่านมา และแนวโน้มชัดเจนว่าจะแพงขึ้นไปอีกไม่หยุด
แพลตฟอร์มโฆษณายักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และ Google นั้น จะคอยเชียร์คอยผลักให้คุณจ่ายเงินยิงแอดให้มากที่สุดอยู่ตลอด แล้วก็เชียร์เก่งมากด้วย
คือมีทีมนักเศรษฐศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ นักจิตวิทยา นักวิศวกร คนที่ได้เงินเดือนตัวท็อปของโลกนี้ ทำงานร่วมกันทุกวัน 24 ชั่วโมง เพื่อ:
แล้วแพลตฟอร์มพวกนี้คือเอาเงินเราไปแบบเก่งมาก มีประสิทธิภาพมาก มากจนเป็นเรื่องยากสำหรับธุรกิจที่จะไปพึ่งพาการเติบโตด้วยการยิงแอดอีกต่อไป ระหว่างที่แพลตฟอร์มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่โฟกัสกับการสร้างกำไรให้ตัวเองได้มากสุด โฆษณาบนนี้ก็แพงสุด จนไม่คุ้ม ธุรกิจทั่วไปจ่ายไม่ไหวแล้ว
บริษัทเทคตัวท็อปของโลก ได้สร้างแพลตฟอร์มโฆษณาที่ "เพอร์เฟ็ค" ในการทำเงินให้ตัวเอง แต่กลับลืมไปว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ควรจะเกิดมาและมีอยู่ เพื่อช่วยให้ธุรกิจในระบบเช่นคุณเติบโตเช่นกัน
แทนที่จะเป็นความสัมพันธ์ที่วิน-วิน ดีทั้งกับแพลตฟอร์มและผู้ใช้ มูลค่าที่เกิดขึ้นกลับถูกดูดไปอยู่ในมือบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้า
Organic marketing คือหนทางสุดทรงพลัง เพื่อการเติบโตธุรกิจ โดยไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาแม้แต่บาทเดียว
ค้นพบวิธีการเติบโตธุรกิจแบบออแกนิกได้เมื่อไหร่ คุณก็สามารถปลดล็อก SUPER POWER ให้ตัวเองเป็นยอดมนุษย์ได้เมื่อนั้น
ทีนี้คุณก็จะมีพลังวิเศษในการสร้างการเติบโตให้ธุรกิจในแบบที่ดีต่อใจ สร้างสังคมเพื่อนใหม่ และไม่ต้องอาศัยงบโฆษณามากมายใหญ่โต
Organic marketing ก็เหมือนการทำสวน
ถ้าคุณอยากจะปลูกต้นไม้ให้งอกงาม ออกดอกผลอร่อยได้กินอิ่มทั้งบ้าน คุณก็ต้องใส่ใจสภาพแวดล้อมของทั้งสวนด้วย
ต้นไม้ที่แข็งแรง ต้องการสัดส่วนที่เหมาะสมของแสงแดดสดใส น้ำสะอาดอุณหภูมิที่ใช่ และสารอาหารจากดินดี ต้นไม้ต้องมีผึ้งช่วยกระจายเกสร ต้องพึ่งพาไปถึงนกที่ช่วยมากินแมลงให้ ก่อนที่แมลงนั่นจะมาตัดหน้าแย่งคุณกินสิ่งที่กำลังปลูกด้วยใจหวัง
เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถสร้างยอดขายจาก organic marketing ได้ ก็เพราะว่าดันลืมมองสิ่งแวดล้อมที่สำคัญกับการเติบโตของทุกสิ่งมีชีวิตในสวนไป มัวแต่ไปโฟกัสกับต้นไม้ต้นเดียว
คนส่วนใหญ่อาจจะไปโฟกัสแต่ SEO หรือมัวทำแต่ Social Media ทำให้เสียโอกาสในการสร้างประโยชน์จากแคมเปญที่รวมพลังของช่องทางออแกนิกทั้งหมดมาไว้ด้วยกัน
ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุดเป็นอันดับ 1 เป็นสิ่งที่คุณต้องรู้ถึงจะสร้างออแกนิคแคมเปญให้สำเร็จได้ เรียกว่าสามารถสร้างทราฟฟิคและยอดขายจากออแกนิคแคมเปญได้สองสามเท่าเลย
คนส่วนใหญ่คือข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย ซึ่งการไม่ทำสิ่งนี้คือรากของปัญหา แคมเปญออแกนิคเกือบทั้งหมดที่ไม่สำเร็จที่เมเคยเห็น ก็คือเป็นเพราะสิ่งนี้
แล้วสิ่งสำคัญนี้คือ? ขั้นตอนนี้คือการเข้าใจให้ลึกซึ้ง ว่า คนที่มีโอกาสจะเป็นลูกค้าของเราได้นั้น ต้องการอะไร
คนส่วนใหญ่บอกว่าตัวเองเข้าใจลูกค้าแล้ว แต่เอาเข้าจริงคุณรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไรคนถึงซื้อจากคุณ? คุณรู้ไหมว่าอะไรตรงไหนของสินค้าที่ทำให้คนอินมากพอที่จะยอมจ่ายเงินให้คุณ? คุณอธิบายเหตุผลทั้งหมดนี้ให้กลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนได้หรือเปล่า?
ใน Module 1 นี้ เมจะพาคุณเดินทางตามขั้นตอนที่เรียบง่ายเพื่อหาคำตอบที่แท้จริงของคำถามเหล่านี้ ความเข้าใจนี้จะถูกนำมาสร้างเป็นแก่นของออแกนิคแคมเปญที่เราจะสร้างใน Module ถัดไป เหมือนเป็นเมล็ดพันธุ์แคมเปญออแกนิคของคุณ
//ธุรกิจส่วนใหญ่เจ๊งตั้งแต่ปีแรก - ขั้นตอนนี้จะให้โอกาสคุณได้ไม่เป็นหนึ่งในนั้น
นี่คือตัวอย่างของสิ่งที่คุณจะได้เรียนใน module นี้:
ถ้าคุณอยากสร้างออแกนิคแคมเปญให้สำเร็จ แบบที่สร้างยอดขายและผลลัพธ์ทางธุรกิจได้จริง แคมเปญของคุณจะต้องทำ 3 ข้อนี้ให้ได้:
1) จับความสนใจของคนที่จะเป็นลูกค้าให้อยู่
2) สร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นภายในกลุ่มเป้าหมายที่จะเห็นแคมเปญของคุณ ด้วยการแชร์ความรู้อันเป็นประโยชน์ ช่วยแก้ปัญหาในสถานการณ์โลกจริงได้
3) เชื่อมโยงแคมเปญกับจุดขายสินค้าบริการของคุณที่แข็งแกร่ง (ซึ่งเราได้ค้นพบใน Module 1) คนที่เห็นแคมเปญของคุณจะได้อยากมารู้จักธุรกิจคุณต่อ ดูว่าคุณขายอะไร แล้วก็ซื้อ!
ใน module นี้ เมจะโชว์ให้คุณดูว่า เราจะคิดไอเดียแคมเปญออแกนิคระดับตำนาน ที่ทำถึง 3 ข้อสำคัญด้านบนนี้ได้อย่างไร
คุณจะได้ค้นพบ:
อยากให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลายพันคนแบบไม่ต้องจ่ายเงินสักบาทไหม?
Partnership marketing หรือ การตลาดสร้างพันธมิตรคือหนึ่งในหนทางที่ทรงพลังที่สุดในการดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ แบบออแกนิคล้วน การพาร์ทเนอร์กับคนที่ใช่ ในแคมเปญออแกนิคที่ดี จะทำให้คุณสามารถสร้างผลตอบรับทางธุรกิจได้ฟรี แบบที่เห็นผลเท่ากับการจ่ายเงินค่าโฆษณาเป็นล้าน
ลองคิดดูแบบนี้ ธุรกิจแต่ละที่ใช้เวลาหลายปีในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าของตัวเองจนเกิดความเชื่อใจต่อกัน การไปพาร์ทเนอร์กับธุรกิจเหล่านี้ ทำให้คุณได้รับการชูป้ายไฟแนะนำ แบบที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีโอกาสจะเชื่อมั่น และมาซื้อของคุณ มากกว่าแคมเปญการยิงแอดใดๆ จะทำได้
องค์กรใหญ่ๆ เข้าใจสิ่งนี้ ใช้กลยุทธ์สร้างพันธมิตรเพื่อโปรโมทแบรนด์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา แต่ SMEs ส่วนใหญ่กลับมองข้ามการพาร์ทเนอร์เพื่อเติบโตธุรกิจของตัวเองไป
บางทีก็เป็นเพราะธุรกิจ SMEs ไม่เคยนึกถึงลึกซึ้งว่าการสร้างพาร์ทเนอร์นั้นทรงพลังขนาดไหน หรือไม่ก็คิดไปว่าไม่มีใครจะอยากมาพาร์ทเนอร์กับตัวเอง
ใน module นี้ เราจะมาดำดิ่งให้ลึกซึ้ง ถึงวิธีการใช้พันธมิตรดึงดูดโอกาสทางธุรกิจและลูกค้ามาให้ แบบที่กิจการไซส์ไหนก็ทำได้ คุณจะได้:
เมสอนนักเรียนมาแล้วกว่า 1,000 คน ให้สร้างคอนเทนต์ที่จะติดอันดับสูงบน Google ผ่าน คอร์ส Comprehensive SEO แล้วก็ได้ช่วยให้นักเรียนและลูกค้า นำพาคนหลายร้อยล้านมาเข้าเว็บไซต์ธุรกิจของตัวเองได้แบบฟรีๆ จาก Google
ถ้าคุณไม่เคยเรียนคอร์ส Comprehensive SEO ด้วยกันมาก่อน ใน module นี้คุณจะได้เห็นการทำ SEO แบบที่ง่ายที่สุด เมจะพาคุณเดินดูขั้นตอนที่สำคัญที่สุดที่คุณต้องรู้ เพื่อสร้างคอนเทนต์ให้ติดอันดับสูงบน Google และ AI Search ให้มาเป็นส่วนหนึ่งในออแกนิคแคมเปญ
ถ้าคุณเคยเรียนคอร์ส Comprehensive SEO ด้วยกันมาแล้ว เจ้า module นี้จะโชว์วิธีที่ดีที่สุดในการพา SEO มาเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญการตลาดออแกนิคที่สมบูรณ์
คนส่วนใหญ่ทำ SEO แบบเป็น "ไซโล (SILO)" คือ คิดงานแยกจากการทำการตลาด แบบอื่นๆ ไปเลย แต่การทำแบบนี้นั้นเสียทั้งเวลา พลังงาน และเงินไปแบบน่าเสียดาย แถมยังเป็นการจำกัดเพดาน ทำให้คอนเทนต์ SEO ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้เต็มศักยภาพ
เมจะมาโชว์ให้คุณเห็นว่า การจะสร้างคอนเทนต์ SEO เพื่อเป็นรากฐานของแคมเปญการตลาดออแกนิคนั้นต้องทำแบบไหน แล้วหลังจากนั้นคุณจะ re-purpose หรือเอาคอนเทนต์นี้มาใช้ต่อในช่องทางออแกนิคอื่นๆ เช่น โซเชียลมีเดีย หรือการพาร์ทเนอร์อย่างไร สิ่งนี้จะช่วยคุณประหยัดเวลา เซฟพลังงานในการประกอบร่างสร้างแคมเปญออแกนิค แล้วก็ยังช่วยให้คุณได้ดอกผลมูลค่าจากคอนเทนต์ SEO แต่ละชิ้นได้อย่างมากมายกว่าที่เคยเป็นมา
ใน module คุณจะได้เรียน
การโพสต์บน Social Media นั้นเข้าถึงคนแบบออแกนิคได้น้อยลงทุกที เมื่อสิบปีก่อนนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่โพสต์ของเพจจะเข้าถึง 10-15% ของแฟนเพจเฟสบุ๊คได้ แต่ในวันนี้ Organic Reach ของโพสต์นั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2% ของผู้ติดตามเท่านั้น
นี่หมายความว่า คนตามเพจ Facebook ทุก 100 คน จะมีคนเห็นโพสต์คุณแค่คนเดียว
พอเป็นแบบนี้หลายธุรกิจก็เลยยอมแพ้ แล้วไปพึ่งการยิงแอดแทน ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่ Facebook และ Social Media ต่างก็ต้องการให้คุณทำ!
แต่การจะสร้าง Organic Reach เข้าถึงคนได้แบบไม่ต้องใช้โฆษณาในโลกโซเชียล ณเวลานี้ มันยังเป็นไปได้ ไม่ใช่แค่ฝัน ตัวเมเองได้สร้างผู้ติดตามหลายหมื่น และทุกวันนี้ก็มี organic reach ใน Facebook อยู่ที่ 15% นิดๆ มากกว่าค่าเฉลี่ยในตลาด 13 เท่า!
นอกจากนี้ ตัวเลขการแชร์หรือความ "ไวรัล" ใน Facebook เฉลี่ยคือ 13 แชร์ต่อโพสต์ ในขณะที่โพสต์ของเมนั้นการแชร์เฉลี่ยอยู่ที่ 40-50 ต่อโพสต์ หลายครั้งก็เกิน 200 แชร์หรือมากกว่านั้นอีก ทั้งหมดนี้ออแกนิคล้วนๆ ไม่ต้องบูส
แล้วเมทำอะไรที่ต่างจากคนอื่น? เมจะมาเล่าให้ฟังใน module นี้แหละ
ใบ้ให้ว่า ไม่เกี่ยวกับเคล็ดไร้สาระอย่างเวลาดีที่ควรโพสต์ในแต่ละวัน หรือเทคนิคคลิกเบทที่เกิดมาแสปมหลอกคนให้มา engage กับโพสต์
ใน module คุณจะได้รู้
คอร์ส Organic Campaign Builder ทุกคนเรียนได้ ไม่ต้องมีพื้นฐานมาก่อนเลยค่ะ
แม้ว่าจะยังไม่มีเว็บไซต์ ก็สามารถเรียน Organic Campaign Builder ค่ะ
คอร์สจะมีเครื่องมือฟรีแนะนำให้ทำในส่วนของ SEO แทนเว็บไซต์ได้ ส่วน Module อื่นความเข้าใจธุรกิจ การทำคอนเทนต์ ใช้ Social Media และ Partnerships ก็สามารถเอาไปใช้ได้เลย
ดังนั้นเรียนแล้วก็จะได้ประโยชน์ 98% แม้จะไม่มีเว็บไซต์มาก่อนค่ะ
ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน Organic Campaign Builder สดทุกครั้งเลยค่ะ :)) ตัวคลาสจะอัดไว้ ดูย้อนหลังได้ตลอดไม่มีหมดอายุ จะส่งให้หลังเรียนจบไม่เกิน 3 ชั่วโมงนะคะ
ดังนั้นจะว่างบางวัน หรือไม่ว่างเลยสักวันก็ไม่มีปัญหา เพราะมาดูย้อนหลังผ่านวิดีโอได้ทุกเวลาค่ะ สนุกเหมือนกัน
สามารถค่าคอร์สสอน Organic Campaign Builder ได้ทั้งแบบโอนจ่าย และบัตรเครดิต ไม่ชาร์จเพิ่มค่ะ
คอร์ส SEO โบ๊ะบ๊ะ สามารถออกเอกสารทางการเงินได้ทุกอย่างค่ะ ขอได้ที่ลิงก์นี้
Comprehensive SEO จะเจาะลึกไปฝั่ง SEO เลยตั้งแต่เว็บไซต์ คอนเทนต์ Backlink เรื่องเทคนิค รวมไปถึง GEO ให้ติด AI Search ได้ ไปจนถึง User Experiences (UX) และ Conversion Rate Optimization (CRO)
คือทุกอย่างที่ต้องรู้ เพื่อเป็นตัวท็อปสาย SEO ทำให้เห็นผลได้สุดในตอนนี้
🌈 Organic Campaign Builder จะเป็นการเปิดอัลติ เชื่อมทุกช่องทางการตลาดออแกนิค SEO + Social Media + Partnerships เพื่อให้นำไปเติบโตธุรกิจได้เลยทันที ไม่ต้องมีงบโฆษณาเยอะ สื่อสารได้อย่างมีพลังในทุกช่องทางที่มีค่ะ
ทำให้การสื่อสารทางธุรกิจเป็นผลมากขึ้นไปอีก เหมือนมีพลังยอดมนุษย์จะเอาไปใช้กับธุรกิจอะไรก็ได้
ถ้าอ่านแล้วยังไม่แน่ใจ ทักมาเล่าให้แอดมินที่เพจ SEO โบ๊ะบ๊ะฟังว่าตอนนี้ทำงานอะไรอยู่ มีเป้าหมายอย่างไร เดี๋ยวแอดมินช่วยแนะนำให้ได้ค่ะ 🤍
ราคา 15,999 บาท/คน
ส่วนลดเปิดตัวครั้งแรก สมัครภายใน 9.9 ลดเหลือ 8,999 เท่านั้น และจะไม่มีถูกเท่านี้อีกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม