Core Web Vitals คือมาตรฐานที่ Google ใช้วัดประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ หรือ UX (User Experiences) เพื่อให้คนใช้เว็บเราได้ลื่นและดีที่สุด นอกจากจะเป็นตัวช่วยจัดอันดับผลการค้นหาแล้ว คะแนน Core Web Vitals ที่ดียังส่งผลต่อธุรกิจ ช่วยให้ใช้เว็บเรานานขึ้น เพิ่มรายได้ให้เว็บได้มากขึ้นด้วย เพราะใครเจอเว็บช้าเข้าไป ก็หนีออกไปเว็บอื่นหมด
ล่าสุดในปี 2024 Core Web Vitals ประกอบไปด้วยปัจจัยสามตัวคือ
ส่วนตัว First Input Delay (วัดความเร็วในการตอบสนองครั้งแรก) ที่เคยใช้นั้น ยังเช็คคะแนนได้อยู่ แต่เอาออกจากตัวหลักไปแล้ว และใช้ INP แทน เริ่มต้นในปี 2024
PageSpeed Insights เป็นเครื่องมือของ Google ที่ไว้ให้เราสามารถใช้เช็กข้อมูลทางด้านความเร็วและ Performance ของทุกเว็บได้แบบฟรีๆ ค่ะ ไปที่ https://pagespeed.web.dev/ แล้วใส่หน้าเว็บของเราที่ต้องการเช็กลงไป แล้วกด Analyze ก็จะเห็นข้อมูลขึ้นมา ทำครั้งแรกเช็คที่นี่ง่ายสุด
คลิกดูวิธีการใช้และติดตั้ง Google Search Console ได้ที่นี่ ในภาพรวมระยะยาว เราดูแค่ที่นี่ก็พอ ละเอียดและง่ายกว่า
ตัว Core Web Vitals นี้ ถ้าเขียวดีสุด เหลืองๆ ยังพอได้ เพราะบนโลกก็มีเว็บไม่ถึงครึ่งที่คะแนนผ่านหมด แต่ถ้าแดงคือควรแก้เลย เพื่อประสบการณ์ที่ดีของคนอ่านเว็บเราค่ะ
สำหรับคนที่ใช้ WordPress มีปลั๊กอินที่ใช้แก้เรื่องความเร็วเว็บและ Core Web Vitals ได้หลายตัวเลย เมลองใช้แล้ว ตัวฟรีบางทีมีปัญหาเว็บพัง ก็เลยมาจบที่ WP Rocket ทั้งเว็บเมและลูกค้า หมดปัญหาเลย
คลิกสมัครที่ลิงก์นี้ได้ลด 20% (และเมจะได้ใช้ฟรี 2 เดือนค่ะ -/\-) นี่ใช้มา 3 ปีแล้ว ดีจริงๆ ไม่ยุ่งยาก ทีเดียวจบ
คลิกดูการตั้งค่า WP Rocket ของเมได้ที่นี่ เป็นโบนัสแถมให้เพิ่มค่ะ :))
บางตัวอาจฟังดูยาก ยังไงลองปรึกษาทีมโปรแกรมเมอร์ดูนะคะ 🙂
แวะคลิกดูคอร์สเรียน SEO จริงจัง มีที่มาที่ไปทุกอย่าง ถูกหลัก 100% สอนมาแล้ว 1000+ คน
สำหรับการทำ SEO แล้ว เมว่าเราก็ควรจะทำเว็บไซต์ให้ดีที่สุดในทุกๆ ด้านแหละ คือคนเข้าเว็บเรามาแล้ว ก็ควรจะใช้ง่าย โหลดไว กดอะไรแล้วไม่ค้าง จะได้แฮปปี้ไม่ติดขัด อ่านคอนเทนต์หรือซื้อของเราต่อได้อย่างราบรื่น
แบบทางการ Google บอกว่า Page Experiences จะใช้ตัดสินก็ต่อเมื่อคอนเทนต์คุณภาพใกล้ๆ กัน เว็บที่เร็วกว่าและประสบการณ์การใช้งานดีกว่า ก็อาจจะชนะไปค่ะ ส่วน WIX ได้ทดลองไว้ แล้วพบว่า คะแนน Core Web Vitals เพิ่มนั้น ช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่ได้ 32% เลย ดังนั้นมีโอกาสมากๆ ถ้า Core Web Vitals ดี ก็จะส่งผลดีกับเว็บเราไปหมด
Largest Contentful Paint (LCP) คือการดูว่าเว็บเราโหลดเร็วหรือเปล่า โดยโฟกัสไปที่คอนเทนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดบนเว็บไซต์ของเราค่ะ เช่น ถ้าเว็บเรามีรูปแบนเนอร์ใหญ่ๆ หรือวิดีโอที่อยู่บนๆ อาจจะต้องใช้เวลาโหลดนานมากกว่า เมื่อเทียบกับตัวหนังสือ ยิ่งใช้เวลาโหลดนานก็จะทำให้คะแนน LCP ของเราน้อยลงค่ะ
ตัว LCP นี้ Google อยากให้ ใช้เวลาโหลดไม่เกิน 2.5 วินาที ถ้าเกิน 4 วินาทีไปก็คือจะกลายเป็นสีแดงเลย
Cumulative Layout Shift (CLS) คือ ตัวที่ดูว่าเว็บเรากระตุก หรือเคลื่อนไหวมากแค่ไหนนั่นเองค่ะ โดยดูทั้งระยะทาง และขนาดของ Element ที่เลื่อน เช่นบางทีเวลาเราโหลดเว็บอะไรในมือถือ แล้วกำลังจะกดปุ่ม แต่ปุ่มดันเลื่อนไปจนนิ้วไปโดนอย่างอื่น หรือเวลาเข้าเว็บแล้วเห็นตัวหนังสือเต็ม แต่อยู่ดีๆ ก็มีรูปหรือแบนเนอร์โผล่ขึ้นมาบนสุด ดันตัวหนังสือลงไปแบบนี้ก็คือว่ามีการขยับและกระตุกเยอะค่ะ โดยจะวัดใน 5 วินาทีแรก ที่หน้าเว็บมีการเคลื่อนไหวมากที่สุด
ตัวนี้จะคำนวณซับซ้อนนิดนึงค่ะ ไม่ได้เป็นวินาทีเหมือนตัวอื่นๆ แต่จะดูว่าขนาดของ element ที่มีการขยับนั้นใหญ่แค่ไหน แล้วขยับไปไกลมากแค่ไหนค่ะ โดยคะแนนไม่ควรจะเกิน 0.1 หรือสุดๆ คือไม่เกิน 0.25 ค่ะ
ดูว่าหลังจากคนทำ Actions เช่นการเลื่อน กด คลิก ฯลฯ แล้วเว็บเราตอบสนองเร็วพอหรือเปล่า ตลอดการใช้งาน โดยดูจาก Action ที่ใช้เวลาตอบสนองมากที่สุดค่ะ INP ตัวนี้ใหม่ล่าสุดเลย หลังจากเทสมานาน
เขียวคือ 0.2 วิ, เหลืองคือ 0.2-0.5 วิ, ถ้าเกินครึ่งวินาที จะแดง = ต้องแก้ ไม่มีใครชอบคลิกแล้วรอนานๆ หรอกเนอะ
First Input Delay (FID) คือการวัดความเร็วของเว็บไซต์ของเรา เวลาที่ผู้ใช้งานทำ action อะไรบางอย่างค่ะ เช่น หลังจากกดเมนูแล้วหน้าต่อไปโหลดเร็วมั้ย หลังจากกดปุ่ม คลิกลิงก์ แล้วตอบสนองเร็วมั้ย กรอกฟอร์มแล้วขึ้นเลยหรือเปล่า แบบนี้ค่ะ เพราะว่าถ้าสมมติเรากดอะไรสักอย่างแล้วมันโหลดนานๆ เราก็คงกดย้ำๆ ซ้ำๆ แบบงงๆ ใช่มั้ยคะว่าที่กดไปเมื่อกี้มันติดหรือเปล่า โดยจะวัดแค่ Action แรก ซึ่งไม่ครอบคลุม Google เลยเอาออกจาก Core Web Vitals และใช้ INP แทนค่ะ
ตัว FID การตอบสนองไม่ควรใช้เวลาเกิน 0.1 วินาที หรือสุดๆ ก็ 0.3 วินาที ซึ่งอันนี้ไม่นับการตอบสนองกับการซูม หรือ scroll เลื่อนจอค่ะ
อย่าลืมปรับหน้าเว็บของเราให้ดีกับ Core Web Vitals เพื่อให้เว็บเราติดอันดับบน Google ได้อย่างปลอดภัย ไม่กลัวหลุด และที่สำคัญ คนที่ใช้งานเว็บไซต์ของเราจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานด้วยค่ะ
ทำเว็บให้ดีด้วย Core Web Vitals แล้ว ต่อไปก็คือการดูส่วนอื่นๆ ทั้งดีไซน์ โครงสร้างหน้า และที่สำคัญสุดๆ เลยคือคอนเทนต์คุณภาพ มาเรียนแบบเข้าใจจริงๆ จากประสบการณ์คนทำงานจริงๆ ด้วยกันนะคะ สอนตั้งแต่พื้นฐาน หลักการ และแนวคิดทั้งหมด เรื่องที่สอนอัปเดตจนชั่วโมงสุดท้าย แถมมี SEO Checklist ให้ เมสอนในมุมของคนที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ ให้ไม่ต้องเขียนโค้ดเป็นก็ปรับเว็บได้ และครอบคลุมเรื่อง SEO ทั้งหมดเลย ดูข้อมูลคอร์สเรียน SEO เพิ่มได้ที่นี่เลย 🙂
Google เริ่มใช้ Core Web Vitals เป็นปัจจัยในการจัดอันดับ SEO บนมือถือตั้งแต่ 16 มิถุนายน 2021 และเริ่มใช้ Core Web Vitals เป็นปัจจัยจัดอันดับบน Desktop ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และเริ่มใช้ INP เมื่อมีนาคม 2024
Google จัดให้ Core Web Vitals เป็นส่วนหนึ่งของ Page Experiences หรือมาตราฐานประสบการณ์ในการการใช้งานในเว็บทั้งหมดเลยค่ะ ใน Page Experiences ก็จะประกอบไปด้วย
ตอนแรกมีรวมเรื่อง Safe Browsing หรือการใช้งานเว็บอย่างปลอดภัยด้วย แต่ตอนนี้เอาออกไปแล้วค่ะ