เป้าหมายหลักของการมีเว็บไซต์สักอัน ก็คงหนีไม่พ้นการมีคนเข้ามาดูใช่มั้ยล่ะคะ? ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ขายของ ข่าว บล็อก หรือเว็บไซต์ประเภทไหนก็ตาม ถ้าเรามีเว็บไว้เฉยๆ แต่ไม่ได้มี Traffic เข้ามาเลย มันก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร เหมือนสั่งกาแฟมารอละลาย เหมือนเสื้อผ้ามีสไตล์แต่ไม่มีคนใส่ ซึ่งหนึ่งในช่องทางหลักที่คนจะเข้าเว็บไซต์ของเราได้ ก็คือผ่านทาง Search Engine อย่าง Google นี่เอง และเราก็คงรู้ดีว่า เวลาที่เราหาอะไรซักอย่างบน Google ก็แทบจะไม่มีใครกดไปหน้าที่สองของเลย ดังนั้นการติดหน้าแรกของ Google จึงเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ของทุกคนที่มีเว็บไซต์ และทำ SEO วันนี้เราลองมาดูหนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดกับการทำ SEO ซึ่งก็คือการเช็คอันดับเว็บไซต์ที่แท้จริงบน Google
ถ้าสนใจเรื่อง SEO แบบเข้าใจจริงๆ จากประสบการณ์คนทำงานจริงๆ เมมีสอนอยู่นะคะ สอนตั้งแต่พื้นฐาน หลักการ และแนวคิดทั้งหมด เรื่องที่สอนอัปเดตจนชั่วโมงสุดท้าย แถมมี SEO Checklist ให้เอาไปทำต่อได้ ตั้งใจสอนเต็มที่ไม่มีกั๊กค่ะ ดูข้อมูลคอร์สเรียน SEO เพิ่มได้ที่นี่เลย 🙂
การใช้โหมดไม่ระบุตัวตนหรือ Incognito จะช่วยให้เราสามารถค้นหาข้อมูลได้โดยไม่มีประวัติการใช้งานของเรามากระทบต่อผลการค้นหา โดยวิธีนี้ง่ายที่สุด และเร็วที่สุด แต่เช็คได้ทีละคำเท่านั้น โดยวิธีง่ายๆ ก็คือ
ผลลัพธ์ที่ขึ้นมาจะไม่มีการเก็บประวัติของเรา ไม่มีการเอา Cookies หรือ Cache ของเรามาเป็นปัจจัยในการแสดงผล จึงใกล้เคียงกับความเป็นจริงของคนทั่วไปมากกว่าการค้นหาผ่านแอคเคาท์ของเราเองค่ะ
ถ้าเราเพิ่งเริ่มทำ SEO แล้วไม่เจอเว็บของเราใน 1-3 หน้าแรก อาจจะเหนื่อยหน่อยที่ต้องกดไปทีละหน้า ดังนั้นวิธีนี้จะเหมาะกับคีย์เวิร์ดที่มีติดอยู่ในหน้าแรกๆ อยู่แล้วค่ะ แต่ข้อดีก็คือเราสามารถเช็คอันดับได้เร็ว และ ฟรี!
Google Search Console (GSC) คือเครื่องมือจาก Google เอง เพื่อไว้ใช้วิเคราะห์ข้อมูลบนเว็บไซต์ของเราด้าน Organic Search หรือการเข้าเว็บเราผ่านการค้นหาบน Google แบบที่ไม่เสียเงินค่าโฆษณาโดยเฉพาะ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราอยากติดตามเมื่อทำ SEO นั่นเอง ซึ่งเมแนะนำว่าทุกเว็บไซต์ควรมี GSC ติดตั้งเอาไว้ เพิ่มจาก Google Analytics ด้วยค่ะ
ใน Google Search Console เราจะได้ข้อมูลที่ละเอียดเป็นรายคำเลย ว่าคนเข้าเว็บเราจากคำไหนบ้าง คำนั้นๆ อยู่ที่อันดับเท่าไหร่ รวมถึงภาพรวมเช่น จำนวนครั้งที่เว็บของเราแสดงผล (Impression) จำนวนคนคลิกที่เข้ามาทาง Google แบบออแกนิคทั้งหมด และ Click Through Rate (CTR) หรืออัตราการคลิกเมื่อเว็บไซต์ของเราแสดงผล
ข้อจำกัดของ Search Console ก็คือเราไม่สามารถเช็คคำที่เราไม่ได้ติดอันดับเลย หรือไม่มีการแสดงผลเลย (Impression = 0) ได้ค่ะ จะเช็คได้ก็ต่อเมื่อคำนั้นมี Impression อย่างน้อย 1 หรือมีการแสดงผลอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงเวลานั้นๆ
Tips: Organic Traffic ก็คือการทำโฆษณาแบบออแกนิก ไม่ใช่ยาฆ่าแมลง เอ้ย! คือคนที่เข้าเว็บไซต์ของเราโดยที่เราไม่ได้จ่ายเงินค่าโฆษณา หรือเรียกได้ว่าคนเข้าชมเว็บแบบฟรีๆ นั่นเองค่ะ 🙂
การติดตั้ง Google Search Console ก็ไม่ยากเลยค่ะ ให้เราล็อกอิน Google ด้วยอีเมลแอคเคาท์เดียวกับที่เราใช้งาน Google Analytics ซึ่งต้องมี Edit Access หรืออำนาจเจริญ เอ้ย อำนาจในการแก้ไข (Edit Access) ด้วยนะคะ จากนั้นเข้าไปที่ลิงก์ https://search.google.com/search-console/welcome แล้วก็ใส่หน้าเว็บของเราลงไปในช่องทางขวามือจากนั้นก็กด Continue (ถ้ามีโปรแกรมเมอร์ช่วยดูแล ให้เค้าติดตั้งให้ก็ได้นะคะ ที่จริงมีหลายวิธี แต่แบบนี้ง่ายสุดๆ ไปเลย เคยไม่เคยจะได้รู้~~~ ถ้าเพลงมาเราคือยุคเดียวกันค่ะ)
หลังจากนั้น Google จะทำการ Verify หรือยืนยันว่าเรามีสิทธิ์ดูข้อมูลของเว็บนี้ได้ ให้เลื่อนลงมาหาคำว่า Google Analytics แล้วคลิก Verify เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ แต่อาจจะต้องรอ 1-2 วันเพื่อให้ข้อมูลเริ่มแสดงนะคะ
วิธีการเช็คอันดับเว็บไซต์ด้วย Search Console เป็นวิธีที่เมแนะนำมากที่สุด ใช้ฟรี ติดตั้งง่าย มีข้อมูลละเอียด และสามารถดูย้อนหลังไปช่วงเวลาไหนก็ได้ค่ะ
ตามที่ข้อ 2 บอกไว้ด้านบน การเช็คอันดับด้วย Google Search Console นั้นชัวร์ ดี และฟรี และตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นมา เราก็สามารถเช็คอันดับ AI Overview บน Google Search Console นี้ได้แล้วด้วยค่ะ
โดยเว็บที่ติดอันดับบน AI Overview จะถูกโชว์ Metrics ต่างๆ รวมกับผลการค้นหาแบบอื่นด้วย ไม่ได้แยกออกมา
ทาง Google บอกว่าเช็คอันดับคล้ายกับผลการค้นหาแบบเดิม ก็คือแยกอันดับเป็นส่วนๆ ไม่ใช่รวมก้อนเดียว แต่บางคนก็พบว่าถ้าเว็บเราถูกพูดถึงใน AI Overview ก็จะถูกตีว่าเป็นอันดับ 1 หมดเลย แล้วค่อยๆ ไล่ลงมา ตามภาพนี้
Ahrefs เป็นเครื่องมือของต่างประเทศ จะไม่มีภาษาไทยนะคะ แต่เราสามารถเช็คข้อมูลคีย์เวิร์ดภาษาไทย ในประเทศไทยได้ วิธีก็ง่ายมากๆ คือ
อย่างภาพตัวอย่างด้านล่างจะเห็นว่า เมกำลังเช็คคำว่า “Backlink คือ” บนเว็บไซต์ของเมเองในประเทศไทย ซึ่งคีย์เวิร์ดนี้ ในขณะตอนเช็คเมอยู่อันดับที่ 5 ค่ะ
ข้อมูลที่เราได้เพิ่มเติมจากเครื่องมืออย่าง Ahrefs ก็คือเว็บไซต์ที่อยู่ 3 อันดับแรกของคำนั้นๆ ค่ะ เช่น เว็บนี้มี Domain Rating เท่าไหร่ Blackpink (เอ้ย Backlink!) เป็นยังไงบ้าง ก็จะช่วยให้เราวิเคราะห์ข้อมูลได้มากเพิ่มขึ้นค่ะ
ถ้าเราอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ Domain Rating ของเว็บไซต์อื่นๆ ในหน้าแรกที่เป็นคู่แข่ง หรือต้องการติดตามอันดับของเว็บเราอย่างต่อเนื่อง ตั้งเตือนให้แจ้งเราบ่อยๆ ก็สามารถสมัครใช้งานได้โดยมีค่าใช้จ่าย และทดลองใช้ครั้งแรกได้ในราคา 7 ดอลลาร์ค่ะ หรือลองดูข้อมูลของตัว Ahrefs ทั้งหมดได้ที่บทความนี้เลยค่ะ
SEMRush เป็นเครื่องมือด้าน SEO ที่เราสามารถใช้งานได้ง่ายๆ ค่ะ ซึ่งเราสามารถเข้าไปใช้ได้ฟรี สำหรับ 1 เว็บไซต์ และสามารถ Track อันดับได้ 10 คีย์เวิร์ด และจะมีการอัปเดตอันดับให้เราทุกวันค่ะ ตั้งเตือนให้ส่งอีเมลมาก็ได้ หรือจะเข้าไปเช็คเองก็ได้ ง่ายๆ แค่
เครื่องมืออย่าง SEMRush จะช่วยให้เราติดตามอันดับของเว็บไซต์ของเราได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในนี้ก็มีเครื่องมือต่างๆ ให้เราใช้เพิ่มเติมได้อีก เช่น Keyword Research หรือคำแนะนำในการปรับปรุงเว็บไซต์ ข้อมูลทั้งหมดจะเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าใครไม่ติด ให้หาเทปสองหน้ามาใช้ เอ้ย ให้ลองเข้าไปใช้ดูได้เลยค่ะ
เจ้าตัวนี้แพงกว่า Ahrefs เพราะออกแบบมาให้ทำอะไรได้มากมายกว่า SEO ทั้งการยิงแอด และ Social Media ด้วย
SERProbot เป็นเว็บไซต์ภาษาอังกฤษ ที่เราเช็คอันดับเว็บภาษาไทยได้เลยไม่มีปัญหา
เว็บนี้ฟรี ใช้ง่าย แต่มีข้อมูลไม่มากเท่าไหร่ แนะนำว่าถ้าใครมีเว็บ ติด Search Console เลยชัวร์ที่สุดค่ะ 🙂
ไม่ใช่ว่าเราลองหาเว็บของตัวเองใน Google แล้วจะเชื่ออันดับที่เราเห็นด้วยตาได้ เพราะมันมีความลับซ่อนอยู่! ผลการค้นหาใน Google จะมีการดูประวัติการใช้งานของเราด้วย มีความ Personalized ดังนั้นเว็บที่ขึ้นมาบนหน้า Google นั้นอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน และที่สำคัญคือการค้นหาจากแต่ละพื้นที่นั้นจะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นคนละเขต จังหวัด หรือประเทศก็มีโอกาสมากๆ ที่ผลลัพธ์จะไม่เหมือนกัน การเช็คเป็นว่าที่จริงเว็บไซต์ของเราอยู่ตรงไหน คีย์เวิร์ดหลักของเราอยู่อันดับที่เท่าไหร่ ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นก่อนเริ่มทำ SEO แล้ว ยังช่วยให้เราติดตามผลของการทำ SEO Optimization ได้ด้วย อ้วย อ้วย (เสียง Echo ยิ่งใหญ่)
Tips: ผลการค้นหาบน Google เรียกได้อีกอย่างว่า SERP หรือ Search Engine Results Page ก็คือพวกหน้าเว็บต่างๆ ที่ขึ้นมาเวลาเราค้นหาอะไรซักอย่างนั่นเอง 🙂
ที่จริงแล้ว ยังมีเครื่องมืออีกหลายตัวที่เราสามารถใช้เพื่อเช็คอันดับเว็บไซต์ของเราได้ เช่น whatsmyserp, My Rank Aware, keyword.com, หรือ SERPmojo แต่ว่าตัวที่เมเลือกมาทั้งหมดด้านบน ก็พอเถอะพอ แล้วพอ พอเถอะควรพอได้แล้ว เหนื่อยเกินไปแล้วใจ เอ้ย! ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานแล้วค่ะ ถ้าให้แนะนำจริงๆ เพียงแค่ใช้ Incognito เพื่อเช็คอันดับเว็บไซต์บน Google เป็นระยะ แล้วเช็คต่อด้วย Search Console เป็นประจำก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าทำ SEO จริงจัง ชอบสายเครื่องมือ เพราะทำอย่างอื่นด้วย ค่อยดูเครื่องมืออย่าง SEMRush และ Ahrefs มาช่วยค่ะ
ถ้าใครมีคำถามเพิ่มเติม ก็ทิ้งคอมเมนท์ไว้ได้เลย หรือมาคุยกันต่อได้ใน Facebook Page ของเมได้เลยค่ะ หรือถ้าใครสนใจอยากเรียนคอร์ส SEO ด้วยกัน มันดีมากนะ ทีเดียวรู้เรื่องครบไปเลย ก็ดูข้อมูลคอร์สเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ 💙
ใช้ได้ฟรีเลยค่า 🙂 มีตัวอย่างและวิธีใช้ในบทความนี้ พร้อมด้วยเครื่องมืออื่นๆ อีกเยอะเลย
การเช็คอันดับเว็บจะมากหรือน้อยแล้วแต่โปรเจ็คที่เราทำค่ะ ถ้าทำจริงจังอาทิตย์ละครั้งกำลังดี หรือถ้ายุ่งมากเป็นเดือนละครั้งก็ได้ อันดับเปลี่ยนแปลงได้ตลอด บางทีมันก็ขึ้นลงเองได้ เช็คบ่อยเกินไปจะเครียดเปล่าๆ ค่ะ