Home » Marketing » Wix vs WordPress ตัวไหนทำเว็บไซต์ดีกว่า? จากคนใช้งานจริง 2024

Wix vs WordPress ตัวไหนทำเว็บไซต์ดีกว่า? จากคนใช้งานจริง 2024

Share:FacebookX

การทำเว็บไซต์เป็นของตัวเองในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เรามีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเองได้อย่างรวดเร็วว่องไวยิ่งกว่าซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปปากซอยซะอีกค่ะ อย่างตัวเมเองจบการตลาด ไม่ได้มีพื้นฐานทางด้านการเขียนโปรแกรมของตัวเองมาก่อน ก็ทำเว็บไซต์ที่เรากำลังอ่านบทความอยู่นี่ขึ้นมาเองได้โดยใช้ WordPress ค่ะ ที่สำคัญไม่ใช่เว็บไซต์แรกของเมด้วยน้า เมได้ลองทำเว็บไซต์เองทั้งผ่าน Wix และ WordPress มาแล้ว วันนี้เลยอยากจะมาแชร์กันค่ะว่าระหว่าง Wix vs WordPress ตัวไหนใช้ทำเว็บไซต์ได้ดีกว่ากัน ทั้งความยากง่ายในการใช้งาน ราคา ข้อดีข้อเสียในระยะยาว และที่สำคัญคือผลกระทบกับ SEO ค่ะ : ) (เป็นคนสอน SEO ก็จะไม่เน้นเรื่อง SEO ไม่ได้เนอะ)

ถ้าสนใจเรื่อง SEO แบบเข้าใจจริงๆ จากประสบการณ์คนทำงานจริงๆ เมมีสอนอยู่นะคะ เรียนจบ ทุกคนก็จะเข้าใจจริงๆ ตั้งแต่พื้นฐาน หลักการ และแนวคิดทั้งหมด เรื่องที่สอนอัปเดตจนชั่วโมงสุดท้าย แถมมี SEO Checklist ให้เอาไปทำต่อได้อย่างมั่นใจแล้วค่ะ :))  ดูข้อมูลคอร์สเรียน SEO เพิ่มได้ที่นี่เลย 🙂

ทำไมนี่ถึงเป็นบทความเรื่อง Wix VS WordPress ที่ดี?

บทความเปรียบเทียบการทำเว็บไซต์ด้วย WordPress VS Wix นี้ ที่เขียนจากคนใช้งานจริงมาแล้วทั้งสองอย่าง แนะนำอย่างจริงใจว่าตัวไหนจะเหมาะสมกับคุณมากที่สุด โดยไม่มีผลประโยชน์ได้เสีย ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ Wix หรือ WordPress ก็ตาม เป็นบทความที่อัปเดตอยู่เสมอ ตามมาอ่านได้ทั้งเวอร์ชันสรุปสั้นว่าทำเว็บไซต์ด้วย Wix ดีไหม? WordPress คืออะไร? จนไปถึงการเทียบกันทั้งด้านการใช้งาน ทำเว็บขายของ และราคาสำหรับเวอร์ชันละเอียด

Tips: แอบบอกไว้ก่อนว่าตัว WordPress จะมีทั้ง WordPress.org และ WordPress.com ซึ่งในครั้งนี้เราจะเทียบระหว่าง Wix กับ WordPress.org ที่ได้รับความนิยมมากกว่าค่ะ

Wix ดีไหม?

การทำเว็บไซต์ด้วย Wix นั้นดีตรงที่ ง่าย เร็ว และสวยงาม ทำเว็บไซต์ได้หลายประเภท กระทั่งจะเปิดร้านค้าออนไลน์ก็ได้ ราคาเริ่มต้นก็ไม่แพง มีฟีเจอร์แนะนำสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำเว็บไซต์และ SEO ให้ทำเว็บไซต์และ SEO เองได้ เห็นกราฟสวยๆ จาก Wix ได้เลย แต่ข้อเสียคืออิสระในการปรับเว็บไซต์นอกกรอบน้อย และปรับความเร็วเว็บไซต์ได้ยาก

สร้างเว็บด้วย Wix เหมาะกับใคร?

  • มือใหม่ อยากทดลองสร้างเว็บไซต์เป็นครั้งแรก
  • อยากมีเว็บไซต์เป็นข้อมูลประกอบ เป็น Portfolio หรือ Referrence
  • ยังไม่ได้จริงจังเรื่องการหาคนเข้าเว็บด้วย SEO ผ่าน Organic Traffic
  • คู่แข่งไม่ได้ทำ SEO จริงจังบน Google ไม่แข่งขันสูง

WordPress ดีไหม?

การทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ดีมากๆ ในมุมของการทำ SEO ให้ได้ดี และอิสระในการปรับเว็บไซต์ เป็น CMS ที่ยืดหยุ่นแบบสุดให้เราออกแบบเว็บไซต์ได้ตามต้องการ ปรับเว็บได้ตามใจ ต่อยอดได้ไกลกว่าด้วยปลั๊กอินที่ช่วยให้เว็บไซต์ทำนั่นนี่ได้เพียบ แต่ก็ซับซ้อน ต้องศึกษาก่อนใช้งาน และมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงกว่าค่ะ

สร้างเว็บด้วย WordPress เหมาะกับใคร?

  • เว็บไซต์ธุรกิจ องค์กร ที่ต้องการต่อยอดในระยะยาว
  • สนใจการทำ SEO Marketing อยากหาคนเข้าเว็บไซต์หรือขายของผ่าน Google เว็บไซต์อันดับหนึ่งของโลก
  • อยากปรับเว็บไซต์อย่างอิสระ ต้องการความยืดหยุ่น
  • ตลาดแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะด้าน SEO ต้องการเว็บที่พร้อมลุยจริงจัง

คนเข้าเว็บไซต์​กว่า 57% จากทั่วโลกมาจากช่องทาง Search Engine เยอะกว่าช่องทางอื่น เช่น Social Media หรือโฆษณารวมกันทั้งหมดไปเลย ทำเว็บเสร็จแล้ว มาเรียนทำ SEO Marketing ดึงดูดคนเข้าเว็บไซต์ผ่าน Google เว็บอันดับหนึ่งของโลก สร้างยอดขายได้ต่อเนื่องยาวนานแบบไม่ต้องมีงบค่าโฆษณากันค่ะ ดูรายละเอียดคอร์ส SEO ได้ที่นี่

Wix VS WordPress ตัวไหนดีกว่า?

Wix เป็น Website Builder ส่วน WordPress เป็น CMS

Wix กับ WordPress อาจจะไม่ใช้คู่แข่งกันโดยตรงค่ะ เหมือนกำลังเอานักกีฬาเทควันโด มาเทียบกับนักมวยไทย เนื่องจากที่จริงแล้วทั้งสองตัวเป็นแพลตฟอร์มคนละประเภทกัน ถึงจะใช้ทำเว็บไซต์เหมือนกันก็ตามค่ะ

Wix คืออะไร?

Wix คือ Website Builder ทำมาเพื่อสร้างเว็บไซต์แบบง่าย เหมือนเป็นโลโก้มีชิ้นส่วนต่างๆ อยู่แล้ว เราแค่ลากมาวางก็เสร็จเลย ใช้ง่าย มีทุกอย่างให้พร้อมแล้วจากเริ่มจนทำเสร็จ แต่ถ้าเราอยากทำอะไรไปมากกว่าชิ้นเลโก้ที่มี ก็จะทำไม่ได้แล้วค่ะ ไม่ค่อยยืดหยุ่น

WordPress คืออะไร?

ตัว WordPress คือ CMS หรือ Content Management System เป็นระบบจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ที่เอาไว้สร้างเว็บของตัวเอง เป็นเครื่องมือสร้างเว็บที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดของโลก มีความยืดหยุ่น เริ่มต้นใช้ฟรี และดีกับการทำ SEO

ตัว WordPress เราสามารถปรับอะไรได้มากมาย แต่สุดท้ายหลอกกันทุกที (ไม่ใช่!) ด้วยความสามารถและอิสระในการปรับเว็บที่มากมาย เราเลยต้องใช้เวลาทำความรู้จัก และเรียนรู้การใช้งานเจ้า WordPress นิดนึงค่ะ เช่น การใช้ปลั๊กอิน ที่เหมือนเป็นตัวเสริมให้เว็บไซต์ทำสิ่งที่เราอยากได้ มีให้เลือกเป็นหมื่นๆ อัน ต้องรีเสิร์ชนิดนึงว่าจะใช้อันไหนที่ตอบโจทย์ ใช้ดี เว็บไม่พัง ราคาเหมาะสม

ตัวอย่างของปลั๊กอินคือ สมมติเราทำเว็บใหม่ แล้วเราอยากให้เว็บเรามีปุ่มแชร์คอนเทนต์ไป Social Media ก็ลงปลั๊กอินที่ชอบมาเฉพาะสำหรับการแชร์ไปบน Social Media ได้เลย ไม่ต้องทำเอง ซึ่งปลั๊กอินนี้บางตัวก็ฟรี บางตัวก็เสียเงิน นอกจากนี้เราก็อาจจะต้องเสียเงินกับ Theme และ Hosting ที่ใช้เก็บข้อมูลอีก จะเห็นว่ามันมีหลายส่วนให้เราได้ศึกษา จึงใช้เวลานิดนึง แต่พอเข้าใจแล้วก็ไม่ยากค่ะ เหมือนปั่นจักรยาน ทำเป็นทีเดียวรู้เรื่อง!

การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์

การใช้งาน Wix สร้างเว็บไซต์

สำหรับการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ของทั้งสองตัวจะต่างกันพอควรเลยค่ะ ตัว Wix นี้จะใช้งานแบบลากวาง คลิก แก้ไปพร้อมๆ กับการเห็นหน้าตาเว็บไปด้วยเลย แบบ Screenshot ด้านล่างนี้ค่ะ สร้างเว็บไซต์ตั้งแต่แรกได้แบบนี้เลย

Screenshot การทำเว็บไซต์บน Wix
ตัวอย่าง Screenshot การทำเว็บไซต์บน Wix

การใช้งาน WordPress สร้างเว็บไซต์

ส่วนสำหรับการสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress นั้น เราจะสร้างและแก้เนื้อหาเว็บไซต์กันหลักๆ ในหลังบ้าน โดยเราจะเพิ่มข้อมูลไปทีละบล็อก เช่น หนึ่งพารากราฟ = หนึ่งบล็อกตาม Screenshot ด้านล่างนี้เลยค่ะ พอเราแก้เสร็จแล้ว ก็ไปกด Preview ด้านมุมบนขวา แล้วอีกแท็ปนึงก็จะขึ้นมาให้เราดูว่าหน้าตาเว็บของเราหน้านั้นมันเป็นยังไงค่ะ

ตัว WordPress เองก็ยังมีตัว Page Builder มากมายให้เราเลือกใช้เพื่อให้การทำเว็บของเราทำได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน เช่น Elementor เป็น Page Builder ตัวที่ดังมากในบ้านเราที่ช่วยให้เราสามารถลากบล็อกดีไซน์สวยๆ มาวางบนหน้าเว็บได้เลย แต่พวก Page Builder นี้ก็เหมือนการซื้อตัวต่อเลโก้มาหลายๆ ชุดค่ะ ช่วยให้เราทำเว็บง่ายขึ้น แต่ก็อาจจะประสบปัญหาว่าเว็บช้าได้เหมือนกัน เพราะมีของที่ไม่จำเป็นเยอะเกินไป

ตัวอย่าง Screenshot การทำเว็บไซต์บน  WordPress
ตัวอย่าง Screenshot การทำเว็บไซต์บน WordPress

สรุปว่าในหัวข้อนี้ WordPress ดูยุ่งยากกว่านิด แต่ว่าทำอะไรได้มากกว่า ส่วน Wix จะแก้เว็บได้ง่ายเพราะเห็นหน้าเว็บไปด้วยเลย อยากแก้ตรงไหนก็คลิกเอา แต่ก็มีข้อจำกัดในการใช้ ปรับแต่งอะไรไม่ได้มากเท่าค่ะ

ตัวเลือกในการปรับแต่งเว็บไซต์

ตัวเลือกปรับเว็บไซต์ใน WordPress

ตัว WordPress เองเป็น open-source CMS พูดง่ายๆ คือใครก็เข้ามาช่วยทำนั่นนี่ได้ เช่น สมมติเมคิดว่า เอ๊ะ WordPress น่าจะมีฟีเจอร์การแชร์คอนเทนต์ไปลง TikTok นะ เมก็ทำปลั๊กอินขึ้นมาเพื่อให้ใครก็ได้โหลดไปลงเว็บตัวเอง เพื่อให้มีปุ่มแชร์คอนเทนต์ไปลง TikTok ได้ ให้คนใช้ฟรีหรือขายด้วยก็ได้ค่ะ และด้วยความเปิดแบบนี้เอง ทำให้ WordPress มีปลั๊กอินเยอะมากกกกกก เฉพาะตัวฟรีก็คือ 58,000 กว่าอันแล้ว แถมมี Theme อีกเป็นหมื่นๆ อัน เรียกว่าเกินแพลตฟอร์มใดจะต้าน

แต่พอมีปลั๊กอินกับ Theme ให้เราเลือกเยอะๆ ก็อาจจะเจอปัญหาได้ค่ะ เช่น มีปลั๊กอินที่ทำงานได้แบบเดียวกันสิบอย่าง จะเลือกอันไหนดี บางปลั๊กอินก็อาจจะใช้งานยากต้องปรับแต่ง การลงปลั๊กอินเยอะๆ อาจจะทำให้เว็บช้า หรือปลั๊กอินแต่ละตัวก็อาจจะตีกันจนเว็บพังได้ค่ะ ต้องดูไปทีละตัว เพราะตอนทำต่างคนต่างทำ

ตัวอย่างหน้าจอ Plugins ของ WordPress
ตัวอย่างหน้าจอ Plugins ของ WordPress

ตัวเลือกปรับเว็บไซต์ใน Wix

สำหรับ Wix นั้นคือเป็นของตัวเองคนเดียว ก็เลยไม่มีปัญหาความตีกันค่ะ Wix มี App Market ที่เอาไว้เข้าไปดูฟีเจอร์ต่างๆ คล้ายกับปลั๊กอินใน WordPress เลย มีของน้อยกว่ามากกก แค่ไม่กี่ร้อยแอป แต่ว่าทุกแอปได้รับการตรวจสอบแล้วว่าใช้งานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหา พร้อมใช้ ไม่ต้องปรับอะไรเยอะ ส่วน Theme ก็มีน้อยกว่าเหมือนกัน ปรับแต่งอะไรไม่ได้มาก แต่สวยงามพร้อมใช้งานค่ะ

สรุปว่าในส่วนของตัวเลือกฟีเจอร์ต่างๆ นี้ WordPress มีของให้เลือกเยอะกว่ามากกก ทั้ง Theme และปลั๊กอิน แต่ก็อาจจะเกิดปัญหาปลั๊กอินตีกันได้ หรือบางตัวก็อาจจะใช้ยาก ส่วน Wix มีให้เลือกน้อย ข้อจำกัดเยอะ แต่ก็ใช้งานได้อย่างสบายใจ สวย เช็กมาแล้ว

หน้าจอ App Marketplace จาก Wix Website Builders
หน้าจอ App Marketplace จาก Wix

ดีไซน์และความสวยงาม

ใครๆ ก็อยากมีเว็บไซต์สวยๆ ใช่มั้ยล่ะคะ?​ แล้วระหว่าง Wix กับ WordPress ตัวไหนจะให้เว็บไซต์สวยๆ ได้ดีกว่ากันนะ?

ทำเว็บให้สวยงามด้วย Wix

Wix มีตีมให้เลือกหลายร้อย Theme ที่ใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ สวยงาม ใช้งานง่าย ให้เราเอามาใช้เริ่มต้น แล้วก็ไปปรับแต่งเองเล็กๆ น้อยๆ ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเว็บขายของ โชว์ผลงาน ร้านอาหาร ธุรกิจ ก็มี Theme ไว้ให้แล้ว ซึ่ง Theme นี้จะจำกัดนิดนึงคือเลือกแล้วเลือกเลย จะเปลี่ยนไม่ได้อีก

ทำเว็บให้สวยงามด้วย WordPress

WordPress มีทั้ง Theme ที่ฟรีและเสียเงินแบบเยอะมากกกกค่ะ ถ้าเสียเงินก็อาจจะเสถียร มีทีม support ที่ดี หรือมีฟีเจอร์ที่ทำอะไรได้มากกว่า และด้วยความที่ตัวเลือกมันเยอะมากกกก ไม่ว่าจะเว็บแบบไหนเราก็สร้างได้หมดค่ะ พวก Theme ฟรีนี่โหลดจาก WordPress.org ได้เลย ส่วนเว็บไซต์ที่ขาย Theme ก็คือเยอะมากๆ เช่น  AstraStudioPressThemify หรือ CSSIgniter ค่ะ

นอกจากนี้แล้วยังให้โปรแกรมเมอร์มาแก้ Theme ทำการปรับเปลี่ยนโน่นนี่เพิ่มเติมได้ดังใจอีก ทำได้ทุกอย่างจริงๆ จะเปลี่ยน Theme เมื่อไหร่ก็ได้อีก

สรุปว่า Wix ทำได้แบบเบสิค คืออยากได้หน้าตาแบบแม็กกาซีน เว็บทั่วๆ ไป ก็สามารถทำได้ค่ะ มีรูปแบบให้เลือกเยอะพอควร แต่ถ้าต้องการทำอะไรในแบบของเรา ปรับเปลี่ยนเยอะๆ ต้องการความยืดหยุ่น และคิดถึงการต่อยอดในระยะยาว WordPress ก็จะดีกว่าค่ะ

Wix VS WordPress อันไหนดีกว่าสำหรับ SEO?

ในมุม SEO แล้ว เราจะมองเรื่องฟีเจอร์ และศักยภาพของเว็บไซต์ในระยะยาวค่ะ

Wix กับ SEO

Wix ทำ SEO ได้ดีประมาณนึง ทั้งที่ตัว Wix เองจะได้รับการมองแรงจากคนในวงการ SEO มาตลอดค่ะ เพราะฟีเจอร์เรื่อง SEO ไม่มาก แต่ปัจจุบันก็มีแอปใหม่ๆ มาช่วยเรื่อง SEO ให้เราปรับแต่งอะไรๆ ได้มากขึ้นแล้วค่ะ อย่างเช่นในภาพด้านล่างนี้จะเห็นว่าเค้าทำ SEO Checklist ให้เลย ว่าถ้าอยากติดอันดับคำนี้ จะต้องไปปรับหน้าเว็บในเบื้องต้นตรงไหนบ้าง แต่ว่าความกังวลค่อนข้างมากก็คือเรื่อง Performance ตัว Wix เองเนื่องจากถูกออกแบบให้ทำได้ทุกอย่าง มีทุกชิ้นส่วนมาให้เราพร้อมลากวาง มันก็เลยทำให้เว็บช้า และปรับให้เร็วขึ้นจนผ่าน Core Web Vitals ซึ่ง Google บอกเองว่าคนเกินครึ่งจะออกจากเว็บเราถ้าโหลดช้าเกิน 3 วินาที และความเร็วเว็บก็เป็นหนึ่งในปัจจัยการจัดอันดับ SEO ตรงนี้เลยมีผลกับ SEO ค่อนข้างมากค่ะ

Screnshot หน้า SEO Checklist จาก Wix Site Builders
Screnshot หน้า SEO Checklist จาก Wix Site Builders
Screenshot การทดสอบความเร็วเว็บ ในเมนู Site Speed ของ Wix Website Builders
Screenshot การทดสอบความเร็วเว็บ ในเมนู Site Speed ของ Wix Website Builders

WordPress กับ SEO

WordPress เรียกได้ว่าค่อนข้างโดดเด่นกับ SEO เมื่อเว็บเกือบครึ่งของโลกก็ใช้ WordPress กันหมด ขนาดที่ Google จะออกปลั๊กอินอะไรใหม่ ยังมีทีมที่เทสสำหรับ WordPress โดยเฉพาะว่าต้องใช้ง่าย ไม่พัง แถมยังมีปลั๊กอินเรื่อง SEO แจ่มๆ ให้เราได้ใช้ อย่าง Yoast และ Rankmath ด้วยค่ะ

ในขา SEO นี้เมเชียร์ WordPress สุดใจค่ะ ทำอะไรได้มากกว่า ปรับแต่งได้เยอะ มีปลั๊กอินดีๆ ให้เรามีอิสระมาก รวมถึงปลั๊กอินปรับความเร็วเว็บดีๆ ก็เยอะ ช่วยให้ความกังวลเรื่องเว็บช้าน้อยกว่า ไว้ใจได้ค่ะ

Wix VS WordPress สำหรับการเขียนบล็อก

ถ้าต้องการเขียนบล็อกอย่างเดียว เมแนะนำลองไปศึกษา Medium.com ค่ะ ใช้งานง่าย เร็ว และฟรี ส่วนตัวเมก็เริ่มมาจาก Medium เหมือนกัน แต่ถ้าอยากเพิ่มฟีเจอร์บล็อกลงไปในเว็บของตัวเอง ลองมาอ่านกันต่อได้ค่ะ

เขียนบล็อกด้วย Wix

สำหรับทำฟีเจอร์บล็อกบน Wix นี่ทำได้ง่ายมากๆ ค่ะ จะใส่แท็ค หมวดหมู่ รูป วิดีโอ ตัวหนังสือก็ได้หมด แต่ว่าการจัดการต่อๆ ไปจะยากค่ะ เช่น โพสต์ย้อนหลังไม่ได้ หรือจัดการคอมเมนท์ยาก

สร้างบล็อกด้วย WordPress

ตัว WordPress เองจริงๆ เริ่มมาจากการเป็นแพลตฟอร์มเขียนบล็อกก่อนค่ะ แล้วก็ค่อยๆ เติบโตมาจนเว็บเกือบครึ่งของโลกใช้ WordPress หมดแล้ว และตัวฟีเจอร์บล็อกเองก็ทำได้ทุกอย่างที่บล็อกควรมีค่ะ

Wix VS WordPress สำหรับเว็บไซต์ Ecommerce

เว็บไซต์ Ecommerce ที่ใช้ขายของจะมีรายละเอียดต่างกับเว็บปกติ เมเลยแยกหัวข้อนี้ออกมาเลยค่ะ

สร้างร้าน Ecommerce ขายของบน Wix

ตัว Wix มีฟีเจอร์ Ecommerce สำหรับแพลนที่เสียเงินค่ะ ราคาเริ่มต้น 17 USD ต่อเดือน ใช้รับเงิน จ่ายเงินได้ แต่สำหรับประเทศไทยต้องลองเช็กอีกครั้งนะคะว่าตัว Payment Gateway ที่จะใช้รับเงินรับรอง Wix หรือเปล่า ณ เวลาที่เขียนตอนนี้ ในประเทศไทยสามารถใช้ Payment Gateway ได้ 2 ตัวก็คือ PayPal และ Rapyd ซึ่งก็มีเก็บค่าบริการทั้งเป็นเปอร์เซ็นต์ และต่อรายการ

ขายของผ่าน Wix ผ่านแชททุกแพลตฟอร์ม

อีกฟีเจอร์นึงที่เมว่าดีมากเลยค่ะ คือการรวมเอาแชททุกช่องทางมาไว้หลังบ้าน Wix ที่เดียว คุยทีเดียว สามารถดูได้ด้วยว่าคนที่เรากำลังคุยใช้งานหน้าไหนของเว็บแล้ว ดูสินค้าไหน ใส่ตะกร้าหรือยัง เราเคยมีข้อมูลอะไรของคนนี้บ้าง ส่งรายละเอียดสินค้าเพิ่ม และส่งลิงก์ไปเก็บเงินก็ได้ผ่านช่องทางนี้ทีเดียวเลยค่ะ คือเริ่มขายของแบบง่ายๆ ได้อย่างครบถ้วนเลย

Screenshot ตัวอย่างหน้าตา Inbox ของ Wix Website Builder
ตัวอย่างหน้าตา Inbox ของ Wix

สร้างร้าน ECommerce ขายของออนไลน์บน WordPress

ส่วนใหญ่คนจะใช้ WooCommerce เข้ามาช่วยทำหน้า ECommerce ให้กับ WordPress ค่ะ ก็จะทำให้หน้าเว็บของเรากลายเป็นร้านค้า ใส่สินค้า ตั้งค่าต่างๆ ได้หมด ใช้ง่าย และฟรีค่ะ จ่ายเงินผ่านหน้าเว็บได้ทั้งหมด และ Payment Gateway เจ้าใหญ่ๆ ในไทยก็รองรับตัวนี้กันหมดค่ะ

คิดว่าถ้าทำร้านจริงจังจนถึงจะขายของแล้ว ยังไงก็ต้องมาทาง WordPress ค่ะ เรียกว่าเหนือกว่าในทุกด้านทั้งการใช้งาน ฟีเจอร์ที่หลากหลาย การตั้งค่า และการรับชำระเงินในประเทศไทยค่ะ

การดูแลลูกค้า และแก้ไขปัญหาในการใช้งาน

Wix Support

เวลาเราใช้เว็บแล้วมีปัญหา หา หา แฟนไม่ได้เลยเธอ (เพลงมา!) เราก็คงอยากหาความช่วยเหลือเป็นเรื่องธรรมดาใช่มั้ยล่ะคะ?​ และตัว Wix นี่ก็เรียกได้ว่าครบกว่าในด้าน Support มีทั้งโทรศัพท์ แชท และอีเมล แถมถ้าจ่ายแพ็คเกจแพง ก็มีทีม VIP Support อีก!

WordPress Support

สำหรับ WordPress นั้นด้วยความที่พื้นฐานของมันคือฟรี และใครๆ ก็มีส่วนร่วมได้ ก็เลยไม่ได้มีทีมบริการลูกค้ามาด้วยค่ะ เราเลยจะไปข้อความช่วยเหลือจากบริการอื่นๆ ที่เราจ่ายเงินไป เช่น Theme ปลั๊กอิน หรือโฮสที่เราใช้บริการค่ะ

เปรียบเทียบราคา Wix VS WordPress

จริงๆ ตัวราคานี่จะเทียบกันยากนิดนึงค่ะ เพราะว่าการตั้งราคาของแต่ละแพลตฟอร์มจะต่างกัน

ราคาของ Wix (Wix Pricing)

ที่จริงแล้ว Wix มีตัวฟรีด้วยค่ะ แต่จะมีโลโก้ Wix ขึ้นมาอยู่บนเว็บของเรา แล้วก็ไม่สามารถเลือกเชื่อโดเมนเองได้ เว็บเราก็จะเป็น username.wix.com/sitename แบบนี้ค่ะ แล้วก็จะใช้บางฟีเจอร์ไม่ได้ เช่น ขายของและรับเงินผ่านเว็บไซต์ไม่ได้

ส่วนตัว Wix ที่เสียเงิน จะเป็นราคารายเดือนที่รวมทุกอย่างไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์การใช้งาน ecommerce, hosting, theme, การบริการลูกค้า หรือแอปต่างๆ มีบางแอปเท่านั้นที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มถ้าเราจะใช้ค่ะ เลือกได้ตามความต้องการ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4.5USD ต่อเดือน หรือประมาณ 150 บาทเท่านั้น ส่วนแบบ e-commerce ที่รับเงินออนไลน์ได้ จะเริ่มต้นที่ 17USD หรือประมาณ 600 บาทค่ะ

Wix website builder ตารางราคา
ตารางราคาของ Wix

ราคาของ WordPress (WordPress Pricing)

ส่วน WordPress นั้นที่จริงแล้วมันฟรีค่ะ แต่เราจะต้องมาจ่ายเงินให้กับพวก Theme ปลั๊กอิน หรือ Hosting เอง ราคาของแต่ละบริการก็จะแตกต่างกันไปค่ะ เช่น Hosting ตัวดังอย่าง Bluehost ราคาเริ่มต้น 2.75 USD ต่อเดือน หรือบ้านเราโฮสตัวดังอย่าง ATOM ก็ราคาเริ่มต้นที่ 1490 บาทต่อปีค่ะ

สรุปการทำเว็บไซต์เองด้วย Wix VS WordPress

ข้อดีข้อเสียของ Wix

ข้อดี Wix

  • ใช้ง่าย ไม่ต้องใช้เวลาเรียนรู้เยอะ
  • มีฟีเจอร์เบสิคที่ทำเว็บออกมาได้สวยงาม
  • แก้เว็บได้ง่าย เพราะเห็นหน้าตาเว็บไปด้วย
  • ค่าใช้จ่ายต่างๆ สรุปรวมมาหมดในรายเดือนแล้ว

ข้อเสีย Wix

  • ปรับแต่งยาก
  • โหลดช้า
  • มีข้อจำกัดเยอะ

ข้อดีข้อเสียของ WordPress

ข้อดี WordPress

  • ยืดหยุ่น ปรับอะไรได้ตามใจ
  • มีตัวเลือกหลากหลายทั้ง Theme ปลั๊กอิน หรือ Host
  • เหมาะกับการทำ SEO และการต่อยอดในระยะยาว

ข้อเสีย WordPress

  • ใช้เวลาเรียนรู้นานกว่า มีความเทคนิคัลมากกว่า
  • มีค่าใช้จ่ายซ่อนอยู่สำหรับการปรับแต่งต่างๆ

ถ้ามีเว็บไซต์อยู่แล้ว ควรจะเปลี่ยนหรือเปล่า?

ถ้าเรามีเว็บไซต์ที่ทำด้วย Wix อยู่แล้ว ให้ลองประเมินดูก่อนว่าเราจะทำเว็บไซต์นี้ต่อยอดไปในระยะยาว มีสินค้าเพิ่ม ต้องการทำ SEO เพิ่ม คุ้มค่ากับการย้ายหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ย้ายได้เลยค่ะ แต่ถ้ามี WordPress จะย้ายไป Wix อันนี้ไม่แนะนำเลยค่ะ เพราะเหมือนดาวน์เกรดลงไปในเชิง SEO

และถ้าต้องการจะย้ายเว็บไซต์จริงๆ ไม่ว่าจะจากไหนไปไหน แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่อง SEO เพื่อช่วยดูเรื่องโครงสร้างเว็บไซต์และการ Redirect ต่างๆ ด้วยนะคะ เพราะว่าถ้าเราทำแบบไม่ได้วางแผน คีย์เวิร์ดต่างๆ ที่เราติดดันดับบน Google อยู่แล้วจะหายไปเลย เสี่ยงมากๆ ค่ะ

หวังว่าบล็อกนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังเลือกระหว่าง Wix กับ WordPress อยู่นะคะ ถ้าชอบอย่าลืมกดแชร์เป็นกำลังใจ ทิ้งคอมเมนท์ไว้คุยกัน หรือมาติดตามกันต่อใน Facebook ได้เลยค่ะ 🙂 หรือถ้าสนใจอยากหาคนช่วยทำ SEO หรือเรียนSEO เพื่อให้คนเข้าเว็บไซต์เราแบบไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเยอะๆ ก็ลองเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้นะคะ ขอบคุณค่ะ ❤️

Share:FacebookX
Written by
Chalakorn Berg
Chalakorn Berg